รีวิวหนัง Day Shift : งานต้องล่า

รีวิวหนัง Day Shift : งานต้องล่า

รีวิวหนัง Day Shift : งานต้องล่า บั๊ด คุณพ่อชนชั้นแรงงานที่ทำงานหนักเพื่อหวังให้ลูกสาวมากไหวพริบของเขามีชีวิตที่ดี แต่งานทำความสะอาดสระว่ายน้ำในซานเฟอร์นานโดแวลลีย์ที่แสนจำเจกลับเป็นเพียงแค่ฉากบังหน้า เพราะแหล่งรายได้ที่แท้จริงของเขามาจากการล่าและฆ่าแวมไพร์ให้กับสหภาพนักล่าแวมไพร์นานาชาติ

รีวิวหนัง Day Shift: งานต้องล่า แรกสัมผัสต้องบอกว่าหน้าหนังของ ‘Day Shift’ ชวนให้นึกถึงหนังแนวคู่หูที่มีฉากหลังเป็นโลกแนวแฟนซีอย่าง ‘Men in Black’ (1997) ‘R.I.P.D.’ (2013) หรือหนังเน็ตฟลิกซ์อย่าง ‘Bright’ (2017) ที่เหมือนว่าจะต้องมีตัวเก๋ามาดดุเข้มประกบกับเด็กใหม่ที่ยังละอ่อนฝีมือแต่สร้างบรรยากาศเฮฮาได้ดี ซึ่งหนังในหมวดนี้ไม่ว่าจะทำดีหรือห่วยมันก็ต้องจัดวางไว้ในชั้นนั่งเหยียดขาเอนหลังนั่งดูในเวลาว่างแบบขอไม่ต้องคิดอะไรให้มากอยู่แล้ว และถ้าคุณกำลังอยู่ในอารมณ์แบบที่ว่าหนังมันจะดูลงตัวในแนวทางของมันพอดี

รีวิวหนัง Day Shift : งานต้องล่า

อาจด้วยเพราะนี่เป็นการกำกับหนังเรื่องแรกของอดีตนักแสดงเสี่ยงตายอย่าง เจ.เจ. เพอร์รี (J.J. Perry) ซึ่งเคยผ่านงานหนังใหญ่มานับไม่ถ้วน แค่คัดเอาชื่อเด่นเช่น แฟรนไชส์ ‘John Wick’ และ ‘Fast & Furious’ ก็นับว่าน่าสนใจไม่น้อยแล้ว แน่นอนว่าในกรณีเช่นนี้หลายครั้งเราจะเห็นว่าทีมสร้างจะไม่ได้ฝืนเล่าท่ายากอะไรมากและเปิดช่องให้เอาความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบฉากต่อสู้มาเป็นจุดแข็งมากกว่า

และนี่ก็เป็นสาเหตุว่าพล็อตหนังเรื่องนี้เล่นตามสูตรสำเร็จแบบไม่ขืนอะไรมากเลย โดยเอาไอเดียของมือเขียนบทหน้าใหม่อย่าง ไทเลอร์ ไทซ์ (Tyler Tice) มาให้ เชย์ แฮตเทน (Shay Hatten) ที่มีผลงานหนังแอ็กชันทรงใกล้กันอย่าง ‘Army of the Dead’ (2021) และ ‘Army of Thieves’ (2021) มาช่วยเสริมลูกเล่นแบบไม่ต้องมากแค่พอดูเพลิน

ได้เป็นเรื่องราวของ บั๊ด คุณพ่อถังแตกที่แสดงโดยนักแสดงยอดฝีมือ เจมี่ ฟ็อกซ์ (Jamie Foxx) ต้องดิ้นรนหาเงินก้อนใหญ่มาจ่ายค่าเทอมให้ลูกสาว ก่อนที่อดีตภรรยาจะขายบ้านเอามาจ่ายแล้วพาลูกย้ายเมืองไปอยู่กับแม่ยายซึ่งจะทำให้เขาไม่พบหน้าลูกอีก แต่แย่หน่อยตรงอาชีพเดียวที่ทำเงินเป็นกอบเป็นกำให้บั๊ดได้คือนักล่าแวมไพร์ที่เขาปกปิดทุกคนเอาไว้ และจะกลับไปรับงานเงินดีเลยก็ไม่ได้อีกเพราะนิสัยเหมือนตำรวจห่ามไม่ตามกฎของเขา ทำให้ถูกเฉดหัวจากสหภาพหรือสมาพันธ์นักล่าเมื่อนานมาแล้ว

จังหวะนี้จึงต้องไปขอความช่วยเหลือจาก บิ๊กจอห์น นักล่าคนดังของสหภาพที่แสดงโดยตำนานนักปุ๊น สนูป ด็อกก์ (Snoop Dogg) ให้เข้าไปไกล่เกลี่ยอ้อนวอนหัวหน้าสหภาพให้เขากลับเข้าทำงาน แต่เงื่อนไขที่บั๊ดต้องทำให้ได้คือเขาต้องทำงานคู่กับ เซธ นักล่าป้ายแดงที่เป็นแค่เสมียนของสหภาพ รับบทโดยหนุ่มหน้าหล่ออย่าง เดฟ ฟรังโก (Dave Franco) ที่ต้องมาแหกปากโวยวายและถ่วงแข้งถ่วงขาตามสูตรมือละอ่อน

รีวิวหนัง Day Shift : งานต้องล่า

และเงื่อนไขสำคัญคือบั๊ดต้องรับงานแค่กะกลางวันที่อันตรายน้อยเพราะแวมไพร์ไม่ออกล่ากัน ซึ่งกลายมาเป็นชื่อของหนัง แต่บังเอิญโชคร้ายที่ตอนนี้มีแวมไพร์มาเฟียที่ไม่กลัวการเดินกลางวันออกมาเพ่นพ่านช่วงที่เขาทำงานพอดี

ว่ากันตามตรงเรื่องราวส่วนใหญ่เดาได้ไม่ยาก และเป็นอะไรที่สบายหัวดูเพลินได้ไปจนจบด้วยสูตรหนังที่คุ้นเคย ชวนให้นึกถึงความเรียบง่ายของหนังแอ็กชันแบบยุคเก่า ๆ ที่ซับซ้อนน้อยแต่เล่าให้สนุกก็พอ

และจุดเด่นของหนังเรื่องนี้ที่ถือว่าสนุกดูเพลินดีคือ ฉากการต่อสู้กับพวกแวมไพร์ที่สะใจดีเหลือเกิน ตัวเอกอาจมีแค่มีดใหญ่กับปืนลูกซองแต่ก็ใช้พลิกแพลงให้มีท่าพิฆาตได้หลากหลายสมกับที่ผู้กำกับเคยออกแบบคิวบู๊มาโชกโชน และที่แจ๋วเลยคือพวกแวมไพร์ก็ตายยากดีเหลือเกิน แถมยังมีท่าทางประหลาดเหมือนพวกซอมบี้นักกายกรรมอีกต่างหาก ดังนั้นเลยเห็นฉากอัด-ดัด-หักพวกแวมไพร์ไปตั้งแต่หัวยันเท้าเลยทีเดียว ยิ่งไม่ตายก็ยิ่งมัน พวกพระเอกยิ่งได้ฉายฉากฆ่าสุดโหดมากขึ้นเท่านั้น และนี่อาจเป็นสาเหตุให้หนังได้เรต R ไปด้วย แต่ก็รุนแรงสะใจคอหนังบู๊ดีเหลือเกิน แม้จะไม่ได้มีอะไรที่แปลกใหม่จนว้าวก็ตาม

รับชมตัวอย่างหนัง : Day Shift งานต้องล่า

ภาพยนต์แนว : แอคชั่น, ตลก, แฟนตาซี
กำกับโดย : เจ. เจ. เพอร์รี่
นักแสดงนำ : เจมี่ ฟ็อกซ์, เดฟ ฟรังโก, สนูป ด็อกก์, คาร์ลา ซูซา


เครดิต : ufabet เว็บแม่

สามารถติดตามข่าวสารภาพยนตร์เพิ่มเติมได้ที่ : Youruniversitycenter.com