รีวิวหนัง Prey : พรีเดเตอร์ย้อนยุค 

รีวิวหนัง Prey : พรีเดเตอร์ย้อนยุค 

รีวิวหนัง Prey : พรีเดเตอร์ย้อนยุค ภาพยนตร์จากแฟรนไชส์ ‘Predator’ เรื่องล่าสุดที่มาลง “Streaming” ทาง Disney+ Hotstar โดยอาจกล่าวได้ว่าเป็นทรัพย์สินสืบทอดกันมาจากการควบรวมค่าย 20th Century Studios เข้ามาร่วมในที่เดียวกัน และคงต้องบอกว่าเป็นการเอาเผ่าพันธุ์ยวตจา (พรีเดเตอร์) กลับมาสู่จอได้อย่างเหมาะสมเสียที หลังจากหลงทางและพยายามรีบูตแฟรนไชส์โดยไม่ใช้เลขภาคต่อใน ‘Predators’ (2010) และ ‘เดอะ เพรดเดเทอร์’ (2018) ที่กลายเป็นหนังที่มีแนวทางเฉพาะ คือถ้าใครไม่เข้าใจสไตล์จนชอบก็คงเกลียดกันไปเลย

รีวิวหนัง Prey : พรีเดเตอร์ย้อนยุค 

รีวิวหนัง Prey : พรีเดเตอร์ย้อนยุค มารอบนี้ได้ผู้กำกับ (แดน แทคเทินเบิร์ก) ที่มีผลงานประทับใจคนดูอย่าง ‘10 โคลเวอร์ฟิลด์ เลน’ (2016) มา ก่อนจะห่างหายไปหลายปี มีโผล่ไปชิมลางกับซีรีส์ ‘Black Mirror’ ตอน Playtest (2016) กับ ‘ก๊วนหนุ่มซ่าล่าซูเปอร์ฮีโร่’ ตอน The Name of the Game (2019) อยู่บ้าง มารอบนี้ก็ถือว่าใช้ความสามารถของเขาในแนวทางธริลเลอร์ได้เข้ากับตัวหนัง ซึ่งเรื่องราวความเป็นมาก็เป็น “Idea” ของทราชเตนเบิร์กกับ แพตทริก ไอซอน (Patrick Aison) ที่มีผลงานเขียนบทในซีรีส์เดินเรื่องชวนสงสัยปนลุ้นระทึกใน ‘เมืองหลอน คนลวง’ (2015) และแนวธริลเลอร์เข้มข้นอย่าง ‘Jack Ryan’ (2018)

ถ้ามองอย่างแบบไม่เจาะจงเรื่องราวใน ‘Prey’ นั้นเรียบง่ายแต่แจ่มชัดอย่างยิ่ง มันคือการหวนคืนสู่นิยามตั้งต้นของคำว่า ผู้ล่าและเหยื่อในห่วงโซ่อาหารที่มีลำดับชั้น แต่มีนัยถึงเรื่องศักดิ์ศรีการยอมรับของนักรบอยู่ในตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่กินใจผู้ชมที่ชื่นชอบหนังแอ็กชันหรือแนวนักสู้ได้ง่าย ในหนังแนวนี้ยิ่งมีความต่างระดับระหว่างผู้ล่าและเหยื่อมากเท่าใด คนดูก็ยิ่งจะลุ้นเอาใจช่วย และจะยิ่งชื่นชอบยินดีได้มากขึ้นเมื่อฝั่งมวยรองพลิกเอาชนะหรือเอาชีวิตรอดมาได้

มันจึงนำมาสู่วิธีคิดที่ว่าให้ (Hunter) ต่างดาวที่โหดเหี้ยม พละกำลังมหาศาล มีสติปัญญาสูงส่ง แถมมีอาวุธล้ำสมัยทั้งระยะประชิดและระยะไกล รวมถึงหายตัวได้อีก ต้องมาสู้กับเหยื่อที่อารยธรรมต้อยต่ำกว่า มีอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือเอาชีวิตรอดในสิ่งแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติไปวัน ๆ ยังดูยากลำบากอย่างชนเผ่าพื้นเมืองโคแมนชี (Comanche) ของอเมริกาที่มีวัฒนธรรมของการล่าอยู่ด้วยนี่เอง

ตัวหนังให้เรามองผ่านสายตาของ (Naru) น้องสาวของว่าที่นักรบหนุ่มของเผ่า แม้เธอจะมีความมีปัญญา และไหวพริบดีช่างสังเกตแต่ก็ยังถูกดูแคลนในความเป็นเพศหญิงที่พละกำลังในการล่าต่ำกว่าผู้ชาย เธอจึงฝึกฝนและแสวงหาการยอมรับผ่านพิธีล่าสัตว์ดุร้ายอย่างสิงโต และแน่นอน ณ เวลานี้ในป่าไม่ได้มีเพียงแค่ ‘Beast’ อย่าง งูพิษ หมาป่า สิงโต หรือหมีเท่านั้น เพราะมีนักฆ่าต่างดาวออกมาเดินหาคู่ต่อสู้ที่สมศักดิ์ศรีอยู่ด้วย และในเวลาใกล้เคียงกันพวกคนยุโรปที่อพยพก็เริ่มรุกรานใช้ปืนฆ่าชนเผ่าพื้นเมืองด้วยเช่นกัน

และต้องชื่นชมด้วยว่า (Actress) อย่าง แอมเบอร์ มิดธันเดอร์ (Amber Midthunder) ที่มารับบท นารู นั้นมีเสน่ห์ทั้งด้านรูปลักษณ์และการแสดงที่สามารถตรึงสายตาไปกับเธอตลอดเรื่องได้จริง ๆ ไม่ว่าจะตอนสวย ๆ หรือผ่านนาทีชีวิตจนโทรมไปทั้งตัว แม้ตอนดูตัวอย่างยังหวั่น ๆ ว่าเธอไม่ค่อยเป็นที่สนใจในสายตานักแต่ของจริงเธอฉายรัศมีได้ร้อนแรงไม่เบาทีเดียว

มาถึงตรงนี้มันจึงได้เห็นว่าหนังมีการนำเสนอนัยของประวัติศาสตร์การล่าอาณานิคมและฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชนพื้นเมืองอเมริกา รวมถึงการพูดเรื่องความเท่าเทียมทางเพศแบบที่เราไม่รู้สึกยัดเยียดอยู่ด้วย ทำให้หนังมีมิติเชิงลึกให้พูดคุยกันต่อได้ แต่มันก็ไม่ทิ้งหน้าที่ในการสร้างความสนุกสนาน ต้องบอกว่าผู้สร้างไล่ระดับความสนุกเร้าใจความตื่นเต้นไปได้อย่างเหมาะสม จากการประจันหน้ากับสัตว์ร้าย จนถึงคู่มือที่เกินเอื้อมแค่เอาชีวิตรอดมาได้ก็บุญ ก่อนที่ทุกอย่างจะบีบบังคับให้ฝั่งตัวเอกจนตรอกต้องสู้กลับเท่านั้น กลายเป็นศึกสุดท้ายที่บีบหัวใจอย่างยิ่ง

โดยรวมต้องบอกว่า ‘Prey’ เป็นหนังที่ตีโจทย์การสร้างได้เฉียบขาดมาก สามารถป้อนปากผู้ชมที่ต้องการเรื่องราวดิบ ๆ เข้าใจง่าย ๆ แต่ขอให้สนุกก็พอซึ่งเป็นผู้ชมกลุ่มใหญ่ ใส่นัยความขัดแย้งเชิงประวัติศาสตร์และข้อโต้แย้งกันถึงกระแสของโลกปัจจุบันลงไปแบบเห็นชัดแต่ไม่ขัดตาเพื่อผู้ชมกลุ่มที่อยากได้อะไรที่เป็นสาระบ้างได้เอาไปถกกันต่อ

รับชมตัวอย่างหนัง : Prey พรีเดเตอร์ย้อนยุค

ภาพยนต์แนว : แอกชั่น, สยองขวัญ
กำกับโดย : แดน แทคเทินเบิร์ก
นักแสดงนำ : แอมเบอร์ มิดทันเดอร์, เดน ดิลิเอโกร, ดาโกต้า บีเวอรส์


เครดิต : บาคาร่าขั้นต่ำ 10 บาท

สามารถติดตามข่าวสารภาพยนตร์เพิ่มเติมได้ที่ : Youruniversitycenter.com